คำถามที่พบบ่อย
ราคาค่าทำสี ทำไมที่อื่นถึง ดูแล้วถูกกว่า ?
อันนี้ก็เป็นเรื่องปกติ ที่ลูกค้าสามารถเลือกสิ่งที่ถูกที่สุดได้ แต่อยากให้ลูกค้าลองดูเรื่องที่สำคัญ แนะนำให้สอบถามดังต่อไปนี้
-
ขั้นตอนการซ่อม เช่น เป็นรอยครูด ล้อแม็กซ์เป็นรอยครูด จะใช้การซ่อมแบบใด ?
-
หากล้อมีการดุ้งหรือคดมา เขาใช้วิธีการทำอย่างไร และ ใช้เครื่องมือ เครื่องจักร อะไรในการซ่อม ?
-
วัสดุสี ที่ใช้ เป็นประเภทใด ยี่ห้ออะไร เป็นแบบไหน แห้งเร็ว หรือแห้งช้า หรือ ใช้การอบสี หรือไม่? หากอบแล้วที่อุณหภูมิเท่าไร ?
- มีการรับประกันผลงาน อย่างไร ?
ข้อแนะนำพิเศษ ให้ท่านขอดูผลงานที่ทำอยู่ หรือ ล้อที่กำลังจะส่งมอบให้ลูกค้า เพราะนั้นคือคำตอบ ที่ท่านจะตัดสินใจ ได้ว่า คุณภาพงานเป็นอย่างไร ?
สีไฮเปอร์ เป็นสีอะไร ? แล้วทำไมถึงแพงกว่า ?
สี ไฮเปอร์ เป็น สี อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งมีความสวยงาม เนื้อสี มีความละเอียดมาก ซึ่งการทำให้สี ออกมาสวยได้ ผู้พ่นต้องมี ความชำนาญ และ ต้องทราบถึงกรรมวิธีการพ่น , การอบสี ที่สลับ ซับซ้อนกว่า การพ่นสีธรรมดา ซึ่งในปัจจุบัน มีเฉดต่างๆ เช่น สี ไฮเปอร์ ซิลเวอร์ , ไฮเปอร์ แบล็ค และ ปัจจุบัน เราได้พัฒนาไปถึง ไฮเปอร์ โครม ซึ่งมีความเงางาม และสีสรร คล้ายโลหะ มากขึ้น อีกทั้งเป็นที่มีองค์ประกอบของเนื้อสี หรือส่วนผสม (Pigment) ของสี ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ จึงทำให้มีราคาแพงกว่าสีธรรมดาเป็นอย่างมาก
ถ้าเราเลือกซื้อล้อแม็กที่ค่า offset ไม่ตรงตามมาตราฐานเดิมจะส่ง ผลเสียอย่างไรครับ ?
สำหรับค่า
Offset มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแต่ละค่ายรถ ซึ่งได้กำหนดไว้แตกต่างกันไป ไม่ได้ตายตัวว่าต้องเท่ากันทุกค่ายรถ ซึ่งค่า
Offset จะไปเกี่ยวข้องกับชุดขับเคลื่อนของล้อ และส่วนของล้อ เช่น ช่วงล่าง , โช๊ค , ซุ้มล้อ , Calipper เบรค เป็นต้น การเลือก Offset ไม่ถูกต้อง เช่น มีค่ามาก หรือ น้อยเกินไป อาจทำให้ล้อไปสัมผัสกับส่วนต่างๆ ได้ ดงันั้นจึงต้องเลือกค่า Offset ให้เหมาะสมตามที่ค่ายรถนั้นๆ กำหนดมา แต่ก็มีบางคนที่อยากได้ค่า Offset ที่แตกต่างออกไป ก็จำเป็นต้องไปแก้ไขช่วงล่างด้วย เช่น ยกสูง พับซุ้ม ใส่ Spacer เป็นต้น ส่วนในคู่มือที่ให้มาก็จะกำหนดเป็นค่าเดิม ( Standard ) ไว้ ให้เราได้อ้างอิง แต่หากมีการเปลี่ยนล้อให้ใหญ่หรือเล็กลง ค่าOffset ก็ต้องเกี่ยวข้องไปด้วย ซึ่งมากน้อยก็ต้องดูจากสเปคของรถจะดีที่สุด แต่ก็ไม่มีแจ้งไว้ในคู่มือว่าจะหากเปลี่ยนไปแล้วจะต้องให้ Offset เป็นเท่าไร ดังนั้นหากท่านต้องการทราบ
สามารถสอบถามได้ที่นี่.
ล้อเดิมของผม เป็น ล้อแม็ก ที่ ชุบโครเมียม แต่ตอนนี้เกิด โครเมียม หลุดลอก จะทำอย่างไร และ ซ่อมได้หรือไม่ ?
ก่อนอื่นเราต้องดูล้อนั้น เป็น ล้อแม็ก ที่มีการชุบมาด้วยคุณภาพดี มากน้อยเพียงใด เท่าที่พบหากเป็นล้อนอก คุณภาพการยึดเกาะค่อนข้างดี ดังนั้นการลอกออกหรือเอาโครเมียมออก จะยาก อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการลอกค่อนข้างสูงมาก ส่วนการซ่อมก็คือการลอกโครเมียมเดิมออก โดยการใช้เคมี แล้วพ่นทราย แล้วจึงทำสีใหม่ ซึ่งในปัจจุบันนี้ ก็มีการพัฒนาเรื่องของสีที่คล้ายโครเมียมมากขึ้น โดยมีข้อดีของสีตัวนี้ก็คือ ราคาถูกกว่า การแก้ไขเมื่อเกิดปัญหากับล้อของเราง่ายกว่า ดูตัวอย่างได้ที่นี่
ล้อเดิมผม ตัวก้านเป็นสี แต่ที่ขอบจะเงา แต่ตอนนี้ ไม่เงาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมมีริ้วรอย และ ขี้เกลือขึ้นอีก ดูไม่สวย จะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ?
ก่อนอื่นเราต้องดูล้อของเราให้แน่ใจเสียก่อนว่า บริเวณขอบล้อ ที่เมื่อก่อนเงานั้น จริงๆแล้ว ตรงส่วนที่เงานั้น ทำมาจากขบวนการใด? ( ดูรูปนี้เพื่อทำความเข้าใจชนิดของผิวล้อ )
การจะนำมาแก้ไข ด้วยการกลึงใหม่ จะมีผลกระทบกับ
- ความแข็งแรงของล้อลดลงแน่นอน เนื่องจากขนาดและความหนา จะลดลง ดังนั้นล้อจะเกิดการ คด, ดุ้ง, หรือ เสียรูปทรง ได้ง่าย
- ผิวหรือความเงาจะไม่สวยเนียนเหมือนที่อยากได้ เพราะส่วนใหญ่เป็นการกลึงด้วยระบบ Manual จึงยากต่อการทำให้เรียบเหมือนกลึงด้วยเครื่องกลึงคอมพิวเตอร์ (CNC) ได้
ข้อแนะนำ หรือ การแก้ไข
แต่หากล้อเดิม เป็นผิวที่เงาเหมือนกระจก เรามีการแก้ไข ได้ 2 วิธีคือ
-
หากชำรุดเสียหาย ไม่มาก ก็ขัดด้วยน้ำยา หรือยาขัดชนิดพิเศษ ก็จะดูดีขึ้น เพราะล้อชนิดนี้เขาทำการชุบเคลือบผิวมาจากโรงงาน จึงควรเก็บผิวเดิมนั้นไว้
-
.หากผิวมีตำหนิมาก ก็อาจต้องนำมาขัดออก (Buffing) ด้วยเครื่องขัด แต่อาจมีผลกระทบต่อความเงางาม เมื่อใช้ไปสักระยะหนึ่ง จึงต้องหมั่นดูแลหรือขัดอย่างต่อเนื่อง
-
หากเป็นรอยครูด อาจต้องมีการเติมเนื้อ ด้วยการเชื่อมแบบพิเศษ แทนการกลึงออก
ระยะเวลาการ ซ่อม หรือ ทำสี นานเท่าไร ? และจะต้องทิ้งรถไว้ด้วยหรือไม่ ?
ระยะเวลาที่ทำจะอยู่ประมาณ 3-4 วัน แต่เนื่องจากมีคิวของลูกค้า ประกอบกับ ขั้นตอนของการทำ เช่น ต้องลอกสีเดิมออกจนถึงเนื้อล้อทุกวง ซึ่งร้านของเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก กับการเตรียมพื้นผิวก่อนการพ่นสี ซึ่งอาจดูช้า แต่เมื่อเทียบกับงานที่ออกมาแล้วล้อของท่านจะสวยงาม คงทน เราจึงกล้ารับประกันผลงาน ดูขั้นตอนการทำสีที่ถูกต้อเขาทำกันอย่างไร ? ส่วนเรื่อง รถของท่านไม่ต้องจอดทิ้งไว้เพราะเรามีล้อสำรองไว้ให้ท่านใช้ฟรี !!! ระหว่างซ่อม
< ด้านบน >
ไม่ทราบว่าที่ร้าน ใช้สีประเภทใด ?
ขั้นตอนของเรา จะใช้สีพิเศษหรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นสีตัวเดียวกับ สีที่โรงงานผลิตล้อแม็กใช้อยู่ เราจึงมั่นใจว่าล้อที่ออกมาจะมีสภาพสวยและทนทาน
หากผมต้องการเปลี่ยนสีล้อเดิม เป็นสีใหม่ จะต้องทำอย่างไร ?
การเลือกสีล้อ ควรคำนึงถึงความเหมาะสมกับสีตัวรถของท่านเป็นสำคัญ ในบางครั้งการซื้อล้อแพงๆ แต่สีสรรไม่เข้ากับตัวรถ ก็จะทำให้รถนั้นดูไม่เด่นก็มีเยอะไป การเลือกสีเป็นศาสตร์ที่ไม่ควรมองข้าม ดูเทคนิคการเลือกสีให้เหมาะกับตัวรถ
หากล้อที่ผมได้มาเป็น 4 รู PCD. 100 แต่ต้องการนำล้อที่มี 5 รู PCD 114.3 จะทำได้ไหม ?
การดัดแปลง ดังกล่าว สามารถทำได้ แต่หากเลือกได้ ผมแนะนำว่าไม่ควรทำ เพราะการเจาะรู PCD. ที่ล้อใหม่นั้น ความร่วมศูนย์กับล้อเดิมจะทำได้ยากมาก อย่างน้อยเครื่องเจาะก็ต้องเป็น เครื่องเจาะที่มีความแม่นยำสูง เช่น CNC ถึงจะพอไหว หรือการทำตัว Adator เพื่อแปลงรูแบบนี้ ก็ไม่อยากแนะนำ
แต่หากเป็น 5 รู PCD 100 แล้วอยากเปลงเป็น 5 รู 114.3 นั้น ก็สามารถทำได้ดีกว่า การแปลงรู PCD แบบ 4รู ออก 4 รู หรือ 5 รู ออก 5 รู ถึงแม้จะคนละ PCD ก็น่าจะดีกว่า
< ด้านบน >
หากไม่ทราบว่าสีที่ชอบ จริงๆ แล้วจะเหมาะกับรถของผมหรือไม่ ?
โดยทั่วไปแล้ว ควรจะมาที่ร้าน เพราะเรามีบริการเทียบสีล้อกับตัวรถของท่านให้ฟรี !!! จึงเหมาะและเป็นวิธีที่ดีที่สุด โอกาสผิดพลาดน้อย เพราะการที่รถของคุณจะดูสวยนั้น ล้อก็เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมาก
สีทำแล้วจะทนไหม ? เพราะของเดิมถูกสุนัขฉี่ แล้วเกิดรอยขี้เกลือขึ้น
การ ทำสีล้อแม็ก ให้คงทนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่นขั้นตอนการทำต้องถูกต้องตามมาตรฐาน ประเภทของสีต้องมีคุณสมบัติโดยเฉพาะที่จะใช้กับล้อแม็ก , ความเอาใจใส่ รู้จริง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เรายึดมั่นมาโดยตลอดขั้นตอนการทำที่ถูกต้อง จะส่งผลให้อายุสีของล้อ มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ซึ่งสำหรับงานที่เราทำนั้นจะมีการรับประกันผลงานถึง 6 เดือน ดูรายละเอียดเรื่องการรับประกัน
< ด้านบน >
ล้อแม็ก ออฟเซ็ท ( OffSet ) 35 แต่เมื่อใส่ไปแล้ว ยางติดด้านในซุ้ม อยากกลึง ออฟเซ็ท ออกให้เป็น 45 จะทำได้ไหม แล้วมีผลอะไรหรือไม่ ?
การที่จะทำให้ออฟเซ็ทเพิ่มขึ้น เขามักจะทำการกลึงเนื้อตรงด้านที่ประกบกับดุมหรือดิสก์ (Hub Mounting Surface ) ออก แต่ทั้งนี้ตัวเลขความหนาของเนื้อล้อที่ต้องหายไปก็อยู่ที่ ( 45-35 = 10 มม.) ซึ่งสิ่งที่ส่งผลกระทบโดยตรงก็คือ ความแข็งแรงตรงจุดที่ยึดกับดุมของรถจะลดลงแน่นอน เพราะความหนาหายไปตั้ง 10 มม. และที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือความหนาของบ่านั่งในรู PCD. จะบางมากหรือไม่ก็ขาดหายไปเลย เช่นเดียวกันหากคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยแล้ว ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า
< ด้านบน >